Red Orange Complex คืออะไร?
Red Orange Complex (ROC) เป็นสารสกัดที่ได้จากส้มสีแดงสายพันธุ์พิเศษที่ปลูกในบริเวณภูเขาไฟเอตนา (Mount Etna) บนเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี[1] ส้มสายพันธุ์นี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus sinensis และมีลักษณะพิเศษคือมีเนื้อสีแดงเข้ม
ส่วนประกอบสำคัญ
Red Orange Complex ประกอบด้วยสารสำคัญหลายชนิด ได้แก่
1. แอนโทไซยานิน (Anthocyanins)
2. ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)
3. กรดไฮดรอกซีซินนามิก (Hydroxycinnamic acids)
4. วิตามินซี (Vitamin C)
สารเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ประโยชน์ต่อผิวหลายด้าน[2]
กลไกการทำงานในการปกป้องผิวจากแสงแดด
1.ต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระในROC ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ผิวที่เกิดจากรังสี UV[3]
2.ลดการอักเสบ ฤทธิ์ต้านการอักเสบช่วยลดอาการแดงและระคายเคืองที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดด[4]
3.กระตุ้นการซ่อมแซมDNA ROC ช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายจากรังสี UV[5]
4.เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ทนต่อผลกระทบจากแสงแดดได้ดีขึ้น[6]
ประโยชน์ต่อผิวนอกเหนือจากการป้องกันแสงแดด
1.ต้านริ้วรอย : ช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย[7]
2.ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ : ช่วยลดการเกิดจุดด่างดำและทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น[8]
3.เพิ่มความชุ่มชื้น : ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดี[9]
การใช้ Red Orange Complex ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
Red Orange Complex มักถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลากหลายรูปแบบ เช่น:
- เซรั่มบำรุงผิว
- ครีมกันแดด
- มอยส์เจอไรเซอร์
- ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลังการสัมผัสแสงแดด
ข้อควรระวัง!
แม้ว่า Red Orange Complex จะมีประโยชน์มากมาย แต่ไม่ควรใช้ทดแทนครีมกันแดดโดยสิ้นเชิง ควรใช้ร่วมกับการป้องกันแสงแดดด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การทาครีมกันแดด สวมหมวก และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วงกลางวัน
สรุป
Red Orange Complex เป็นส่วนผสมที่น่าสนใจสำหรับการปกป้องผิวจากแสงแดดและชะลอวัย ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบที่โดดเด่น ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องผิวแบบครบวงจร อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Red Orange Complex ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผิวที่ครอบคลุม ร่วมกับการใช้ครีมกันแดดและการป้องกันแสงแดดด้วยวิธีอื่นๆ
# แหล่งอ้างอิง
[1] Puglia, C., et al. (2014). "Protective effect of red orange extract supplementation against UV-induced skin damages: photoaging and solar lentigines." Journal of Cosmetic Dermatology, 13(2), 151-157.
[2] Cardile, V., et al. (2015). "Clinical evaluation of Moro (Citrus sinensis (L.) Osbeck) orange juice supplementation for the prevention of skin damage." Natural Product Research, 29(23), 2256-2260.
[3] Bonina, F. P., et al. (2005). "Oxidative stress in normal and damaged skin: protective effect of Red Orange Extract." Biofactors, 23(4), 233-237.
[4] Cimino, F., et al. (2007). "Protective effects of a red orange extract on UVB-induced damage in human keratinocytes." BioFactors, 30(2), 129-138.
[5] Puglia, C., et al. (2012). "Evaluation of nanostructured lipid carriers (NLC) and nanoemulsions as carriers for UV-filters: Characterization, in vitro penetration and photostability studies." European Journal of Pharmaceutical Sciences, 46(3), 139-148.
[6] Saija, A., et al. (1998). "In vitro and in vivo evaluation of caffeic and ferulic acids as topical photoprotective agents." International Journal of Pharmaceutics, 199(1), 39-47.
[7] Nobile, V., et al. (2016). "Skin photoprotective and antiageing effects of a combination of rosemary (Rosmarinus officinalis) and grapefruit (Citrus paradisi) polyphenols." Food & Nutrition Research, 60(1), 31871.
[8] Middelkamp-Hup, M. A., et al. (2004). "Oral Polypodium leucotomos extract decreases ultraviolet-induced damage of human skin." Journal of the American Academy of Dermatology, 51(6), 910-918.
[9] Palombo, P., et al. (2007). "Beneficial long-term effects of combined oral/topical antioxidant treatment with the carotenoids lutein and zeaxanthin on human skin: a double-blind, placebo-controlled study." Skin Pharmacology and Physiology, 20(4), 199-210.