1. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
ครีมกันแดดเป็นด่านแรกในการปกป้องผิวจากรังสี UV
- เลือกครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30 และป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB[1]
- ทาครีมกันแดดอย่างน้อย 15-30 นาทีก่อนออกแดด
- ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังเล่นน้ำหรือเหงื่อออกมาก
- อย่าลืมทาบริเวณที่มักถูกลืม เช่น หู คอ หลังมือ และเท้า
2. สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิว
เสื้อผ้าสามารถเป็นเกราะป้องกันแสงแดดที่ดี
- สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเมื่อต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน
- เลือกผ้าที่มีเนื้อแน่น สีเข้ม หรือผ้าที่มีคุณสมบัติป้องกัน UV โดยเฉพาะ[2]
- สวมหมวกปีกกว้างเพื่อปกป้องใบหน้า คอ และหู
3. ใส่แว่นกันแดด
ดวงตาก็ต้องการการปกป้องจากแสงแดดเช่นกัน
- เลือกแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100%[3]
- แว่นทรงใหญ่หรือแบบ wrap-around จะช่วยปกป้องดวงตาและผิวรอบดวงตาได้ดีกว่า
4. หลีกเลี่ยงแดดในช่วงที่แรงที่สุด
- พยายามอยู่ในร่มในช่วงเวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แสงแดดแรงที่สุด[4]
- หากต้องออกนอกบ้านในช่วงนี้ ให้อยู่ในร่มหรือใต้ร่มให้มากที่สุด
5. ใช้ร่มหรือเต็นท์
- พกร่มติดตัวเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง
- เลือกใช้ร่มชายหาดหรือเต็นท์เมื่อไปเที่ยวทะเลหรือสวนสาธารณะ
6. รับประทานอาหารที่ช่วยปกป้องผิว
อาหารบางชนิดสามารถช่วยเพิ่มการป้องกันผิวจากภายในได้
- รับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้สีสดใส[5]
- อาหารที่มีโอเมก้า-3 สูง เช่น ปลาแซลมอน อาจช่วยลดความเสียหายของผิวจากแสงแดด[6]
7. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- การดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวและช่วยในกระบวนการฟื้นฟูผิว[7]
- พยายามดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่กลางแดด
8. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีและอี
- ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีวิตามินซีและอีสามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความเสียหายของผิวจากแสงแดดได้[8]
- ใช้เป็นประจำในตอนเช้าก่อนทาครีมกันแดด
9. ตรวจสอบผิวหนังเป็นประจำ
- สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีผิว รอยด่าง หรือไฝที่มีอยู่เดิม
- หากพบความผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที
10. ไม่ใช้เตียงอาบแดดหรือโคมไฟ UV
- การใช้เตียงอาบแดดหรือโคมไฟ UV เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังอย่างมาก[9]
- หากต้องการผิวสีแทน ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวให้สีแทนแทน
การปกป้องผิวจากแสงแดดไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างปลอดภัย และช่วยรักษาสุขภาพผิวในระยะยาว
แหล่งอ้างอิง
[1] American Academy of Dermatology. (2021). Sunscreen FAQs. https://www.aad.org/public/everyday-care/sun-protection/sunscreen-patients/sunscreen-faqs
[2] Skin Cancer Foundation. (2021). Sun-Protective Clothing. https://www.skincancer.org/skin-cancer-prevention/sun-protection/sun-protective-clothing/
[3] American Academy of Ophthalmology. (2021). Recommended Types of Sunglasses. https://www.aao.org/eye-health/glasses-contacts/sunglasses-recommended-types
[4] World Health Organization. (2021). Sun protection. https://www.who.int/news-room/q-a-detail/radiation-sun-protection
[5] Grether-Beck, S., et al. (2016). Molecular evidence that oral supplementation with lycopene or lutein protects human skin against ultraviolet radiation: Results from a double-blinded, placebo-controlled, cross-over study. British Journal of Dermatology, 174(5), 1231-1240.
[6] Pilkington, S. M., et al. (2013). Omega-3 polyunsaturated fatty acids: Photoprotective macronutrients. Experimental Dermatology, 22(12), 766-771.
[7] Palma, L., et al. (2015). Dietary water affects human skin hydration and biomechanics. Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology, 8, 413-421.
[8] Wang, S. Q., et al. (2013). Topical vitamins. In P. K. Farris (Ed.), Cosmeceuticals and Cosmetic Practice (pp. 94-102). Wiley-Blackwell.
[9] Wehner, M. R., et al. (2012). Indoor tanning and non-melanoma skin cancer: Systematic review and meta-analysis. BMJ, 345, e5909.