ทำไม Pycnogenol ถึงเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของผิว

Pycnogenol คืออะไร?

 Pycnogenol เป็นชื่อทางการค้าของสารสกัดจากเปลือกสนทางตะวันตกของฝรั่งเศส (Pinus pinaster) ซึ่งอุดมไปด้วยสารประกอบโพลีฟีนอล โดยเฉพาะ procyanidins, bioflavonoids และ organic acids ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบอย่างแข็งแกร่ง[1]

 

ประโยชน์ของ Pycnogenol ต่อผิว

1. ต้านอนุมูลอิสระอย่างทรงพลัง

Pycnogenol มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า[2] คุณสมบัตินี้ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด มลภาวะ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

 
2. เพิ่มการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน

การศึกษาพบว่า Pycnogenol สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่น[3] นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ยาวนานขึ้น

 
3. ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

Pycnogenol มีคุณสมบัติในการยับยั้งการผลิตเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของจุดด่างดำและความไม่สม่ำเสมอของสีผิว[4] การใช้ Pycnogenol เป็นประจำอาจช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น

 4. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

การศึกษาพบว่า Pycnogenol สามารถเพิ่มการผลิตกรดไฮยาลูโรนิคในผิว ซึ่งเป็นสารสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว[5] นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวชั้นนอก ทำให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น

 5. ลดการอักเสบของผิว

ด้วยคุณสมบัติต้านการอักเสบ Pycnogenol สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังอักเสบ[6] นอกจากนี้ ยังอาจช่วยลดอาการแดงและระคายเคืองของผิวได้

 6. ปกป้องผิวจากรังสี UV

 แม้ว่า Pycnogenol จะไม่สามารถทดแทนครีมกันแดดได้ แต่การศึกษาพบว่าการรับประทาน Pycnogenol เป็นประจำสามารถเพิ่มความทนทานของผิวต่อรังสี UV และลดความเสียหายของผิวจากแสงแดดได้[7]

วิธีการใช้ Pycnogenol เพื่อสุขภาพผิว

Pycnogenol สามารถใช้ได้ทั้งแบบรับประทานและใช้ภายนอก

 1.การรับประทาน : ปริมาณที่แนะนำคือ 50-100 มิลลิกรัมต่อวัน[8] ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ

 2.การใช้ภายนอก : Pycnogenol มักพบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น เซรั่ม ครีม และมาส์กหน้า ใช้ตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์

ข้อควรระวัง

แม้ว่า Pycnogenol จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงในบางคน เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย หรือคลื่นไส้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ Pycnogenol

 
สรุป

Pycnogenol ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่ามีประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพผิวหลายด้าน ทั้งการต้านอนุมูลอิสระ การกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน การเพิ่มความชุ่มชื้น และการปกป้องผิวจากความเสียหายต่างๆ ด้วยคุณสมบัติอันหลากหลายนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Pycnogenol จะได้รับการขนานนามว่าเป็น "ซูเปอร์ฮีโร่ของผิว" อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับสารอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ การใช้ Pycnogenol ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพผิวแบบองค์รวม ซึ่งรวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ และการปกป้องผิวจากแสงแดด

 
แหล่งอ้างอิง

[1] Rohdewald, P. (2002). A review of the French maritime pine bark extract (Pycnogenol), a herbal medication with a diverse clinical pharmacology. International Journal of Clinical Pharmacology and Therapeutics, 40(4), 158-168.

[2] Packer, L., Rimbach, G., & Virgili, F. (1999). Antioxidant activity and biologic properties of a procyanidin-rich extract from pine (Pinus maritima) bark, pycnogenol. Free Radical Biology and Medicine, 27(5-6), 704-724.

[3] Marini, A., et al. (2012). Pycnogenol® effects on skin elasticity and hydration coincide with increased gene expressions of collagen type I and hyaluronic acid synthase in women. Skin Pharmacology and Physiology, 25(2), 86-92.

[4] Ni, Z., Mu, Y., & Gulati, O. (2002). Treatment of melasma with Pycnogenol®. Phytotherapy Research, 16(6), 567-571.

[5] Grether-Beck, S., et al. (2016). French Maritime Pine Bark Extract (Pycnogenol®) Effects on Human Skin: Clinical and Molecular Evidence. Skin Pharmacology and Physiology, 29(1), 13-17.

[6] Belcaro, G., et al. (2014). Improvement in signs and symptoms in psoriasis patients with Pycnogenol® supplementation. Panminerva Medica, 56(1), 41-48.

[7] Saliou, C., et al. (2001). Solar ultraviolet-induced erythema in human skin and nuclear factor-kappa-B-dependent gene expression in keratinocytes are modulated by a French maritime pine bark extract. Free Radical Biology and Medicine, 30(2), 154-160.

[8] Gulati, O. P. (2015). Pycnogenol® in metabolic syndrome and related disorders. Phytotherapy Research, 29(7), 949-968.