เทคโนโลยี Liposomal คืออะไร?
Liposome เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีโครงสร้างคล้ายเซลล์ของร่างกาย ประกอบด้วยชั้นไขมันสองชั้น (lipid bilayer) ที่ห่อหุ้มสารอาหารหรือยาไว้ภายใน[1] เทคโนโลยี Liposomal จึงเป็นการนำ Liposome มาใช้เป็นตัวนำส่งสารอาหารหรือยาเข้าสู่ร่างกาย
กลไกการทำงานของเทคโนโลยี Liposomal
1. การปกป้องสารอาหาร : Liposome ช่วยปกป้องสารอาหารจากการถูกทำลายโดยกรดในกระเพาะอาหารและเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร[2]
2. การเพิ่มการดูดซึม : โครงสร้างของ Liposome ที่คล้ายกับเยื่อหุ้มเซลล์ของร่างกาย ทำให้สามารถหลอมรวมกับเซลล์และปล่อยสารอาหารเข้าสู่เซลล์ได้โดยตรง[3]
3. การนำส่งแบบเฉพาะเจาะจง : Liposome สามารถถูกออกแบบให้นำส่งสารอาหารไปยังอวัยวะหรือเนื้อเยื่อเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจง[4]
ประโยชน์ของเทคโนโลยี Liposomal
1. เพิ่มชีวปริมาณออกฤทธิ์ (Bioavailability) : การศึกษาพบว่าสารอาหารที่ใช้เทคโนโลยี Liposomal มีชีวปริมาณออกฤทธิ์สูงกว่ารูปแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญ[5]
2. ลดผลข้างเคียง : การนำส่งแบบเฉพาะเจาะจงช่วยลดการสัมผัสของสารอาหารกับเนื้อเยื่อที่ไม่ใช่เป้าหมาย ทำให้ลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์[6]
3. เพิ่มความเสถียร : Liposome ช่วยปกป้องสารอาหารจากการเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสง ความร้อน หรือออกซิเจน ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น[7]
4. ใช้ได้กับสารหลากหลายชนิด : เทคโนโลยี Liposomal สามารถใช้ได้กับทั้งสารที่ละลายในน้ำและสารที่ละลายในไขมัน ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับสารอาหารหลากหลายชนิด[8]
ตัวอย่างของสารอาหารที่ใช้เทคโนโลยี Liposomal
1. วิตามินซี : การศึกษาพบว่าวิตามินซีแบบ Liposomal มีการดูดซึมสูงกว่าและคงอยู่ในกระแสเลือดได้นานกว่าวิตามินซีแบบปกติ[9]
2. กลูตาไธโอน : กลูตาไธโอนแบบ Liposomal สามารถเพิ่มระดับกลูตาไธโอนในเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ารูปแบบปกติ[10]
3. คิวเทน (Coenzyme Q10) : คิวเทนแบบ Liposomal มีชีวปริมาณออกฤทธิ์สูงกว่าและสามารถเพิ่มระดับคิวเทนในเซลล์ได้ดีกว่ารูปแบบปกติ[11]
4. เคอร์คูมิน : เคอร์คูมินแบบ Liposomal มีการดูดซึมและการกระจายตัวในร่างกายที่ดีกว่าเคอร์คูมินแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญ[12]
ข้อควรพิจารณา
แม้ว่าเทคโนโลยี Liposomal จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรพิจารณาบางประการ
1. ราคา : ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี Liposomal มักมีราคาสูงกว่ารูปแบบปกติ เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า
2. ความเข้ากันได้ : ไม่ใช่สารอาหารทุกชนิดที่จะเหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยี Liposomal
3. การควบคุมคุณภาพ : คุณภาพของผลิตภัณฑ์ Liposomal ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
สรุป
เทคโนโลยี Liposomal เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจในวงการอาหารเสริมและยา ด้วยความสามารถในการเพิ่มการดูดซึมและประสิทธิภาพของสารอาหาร ทำให้เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการปฏิวัติวงการสุขภาพและการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี Liposomal
แหล่งอ้างอิง
[1] Akbarzadeh, A., et al. (2013). Liposome: classification, preparation, and applications. Nanoscale Research Letters, 8(1), 102.
[2] Shade, C. W. (2016). Liposomes as Advanced Delivery Systems for Nutraceuticals. Integrative Medicine: A Clinician's Journal, 15(1), 33-36.
[3] Allen, T. M., & Cullis, P. R. (2013). Liposomal drug delivery systems: From concept to clinical applications. Advanced Drug Delivery Reviews, 65(1), 36-48.
[4] Bulbake, U., et al. (2017). Liposomal Formulations in Clinical Use: An Updated Review. Pharmaceutics, 9(2), 12.
[5] Kraft, J. C., et al. (2014). Emerging Research and Clinical Development Trends of Liposome and Lipid Nanoparticle Drug Delivery Systems. Journal of Pharmaceutical Sciences, 103(1), 29-52.
[6] Sercombe, L., et al. (2015). Advances and Challenges of Liposome Assisted Drug Delivery. Frontiers in Pharmacology, 6, 286.
[7] Mozafari, M. R., et al. (2008). Nanoliposomes and Their Applications in Food Nanotechnology. Journal of Liposome Research, 18(4), 309-327.
[8] Hathout, R. M., & Elsayed, M. M. (2016). Nanoparticulate systems for the delivery of nutraceuticals. Current Opinion in Food Science, 7, 27-33.
[9] Davis, J. L., et al. (2016). Liposomal-encapsulated Ascorbic Acid: Influence on Vitamin C Bioavailability and Capacity to Protect Against Ischemia-Reperfusion Injury. Nutrition and Metabolic Insights, 9, 25-30.
[10] Sinha, R., et al. (2018). Oral supplementation of liposomal glutathione elevates body stores of glutathione and markers of immune function. European Journal of Clinical Nutrition, 72(1), 105-111.
[11] Zhang, Y., et al. (2018). Coenzyme Q10 and its advance in nanomedicine. Frontiers of Chemical Science and Engineering, 12(1), 41-54.
[12] Cuomo, J., et al. (2011). Comparative absorption of a standardized curcuminoid mixture and its lecithin formulation. Journal of Natural Products, 74(4), 664-669.